การแข่งขันศึกลูกหนังอาเซียน คัพ หรือ ไทเกอร์ คัพ เดิม ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันอังคารที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันกันในกลุ่มเอ รอบแรก นัดสุดท้าย ระหว่างทีมชาติไทย กับทีมชาติมาเลเซีย โดยก่อนหน้านี้ทีมไทยลงสนามมาแล้ว 2 นัด เสมอกับพม่า 1-1 และชนะฟิลิปปินส์ 4-0 มี 4 คะแนน เท่ากับมาเลเซียที่ชนะฟิลิปปินส์ 4-0 และเสมอกับพม่า 0-0 แต่ลูกยิงของทีมไทยมีมากกว่าจึงนำเป็นจ่าฝูง ในนัดนี้ขอแค่ทีมไทยเพียงแค่เสมอก็จะลอยลำเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ที่ใช้ระบบเตะกันแบบเหย้า-เยือนทันที
แมตช์นี้ทีมไทยต้องขาด ดัสกร ทองเหลา มิดฟิลด์ จอมทัพ ที่มีอาการเจ็บหลังอันเนื่องมาจากหมอนรองกระดูกไปทับเส้นประสาท แต่ยังดีที่ได้ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ศูนย์หน้ากัปตันทีม คัมแบ็กกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติไทยที่ลงสนาม ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู โกสินทร์ หทัยรัตนกุล กองหลัง 4 คน คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เจษฎา จิตสวัสดิ์ กับ นิเวส ศิริวงศ์ แบ็กขวา สุรีย์ สุขะ แบ็กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ กองกลาง 4 คน ด้านขวา สุเชาว์ นุชนุ่ม ด้านซ้าย สุธี สุขสมกิจ มิดฟิลด์ตัวรับ นิรุจน์ สุระเสียง มิดฟิลด์ตัวรุก พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และคู่กองหน้า เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยืนคู่กับ โจ้ 5 หลา ศรายุทธ ชัยคำดี โดยยังมีแฟนบอลแห่กันมาให้กำลังใจกันหนาตาสองหมื่นกว่าคน
เกมครึ่งแรก ทีมไทยเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า นาทีที่ 20 สุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดบอลจากกราบขวาให้ศรายุทธ ชัยคำดี ที่อยู่ในกรอบเขตโทษโหม่งตั้งมาให้เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ยืนอยู่โล่งๆคนเดียววอลเลย์เต็มแรงด้วย แต่ลูกข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 37 กองหลังของไทยปล่อยให้ ธาคูมา คาลิปปิน กระชากบอลทางด้านกราบซ้ายเข้าไปยิง แต่โกสินทร์ หทัยรัตนกุล นายทวารของไทย เซฟไว้ได้หวุดหวิด เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 43 ไทยก็มีโอกาสขึ้นนำมากที่สุด จากจังหวะที่เกียรติศักดิ์แตะบอลให้ศรายุทธ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตูทีมเสือเหลือง แต่ โจ้ 5 หลา แปบอลออกนอกกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ จบครึ่งแรกไทยยังเสมอกับมาเลเซียอยู่ 0-0
เกมครึ่งหลัง เล่นมาได้แค่ 2 นาที ไทยก็ขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่สุรีย์ สุขะ ครอสบอลอย่างสวยงามจากทางด้านกราบขวามาเข้าหัวศรายุทธ ชัยคำดี โขกโป้งเดียวลูกตุงตาข่าย ไทยออกนำ 1-0 นาทีที่ 55 ทีมไทยก็เกือบได้ประตูที่ 2 เมื่อ ซิโก้ ปั่นฟรีคิกไปชนเสาออกหลังไปอีก จากนั้นมาเลเซียเปิดเกมบุกมากขึ้นหวังทวงประตูคืน แต่ในนาทีที่ 87 เออร์วาน ฟัซลี อิดรุส ไปทำฟาวล์สุเชาว์ นุชนุ่ม จนโดนใบเหลืองใบที่ 2 เป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม หมดเวลาทีมไทยเป็นฝ่ายเฉือนชนะมาเลเซียหวุดหวิด 1-0 ส่งผลให้ทีมไทยลอยลำเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จด้วยการเป็นทีมอันดับที่ 1 ของกลุ่มนี้ จากการลงเล่น 3 นัดมี 7 คะแนน พร้อมกับมาเลเซีย ที่เป็นทีมอันดับที่ 2 แข่ง 3 นัดมี 4 คะแนน เนื่องจากพม่าที่ลงเตะที่สนามกีฬากองทัพบกในเวลาเดียวกัน ทำได้แค่เสมอกับฟิลิปปินส์ 0-0 เท่านั้น
หลังจบเกม โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นเกมที่เล่นยาก เนื่องจากแฟนบอลคาดหวังกับผลการแข่งขันมาก ทำให้นักเตะเล่นกันแบบเกร็งๆอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็สามารถใช้ประสบการณ์เอาตัวรอดมาได้ สำหรับประตูที่ได้เป็นการเข้าทำที่สวยงาม เพราะเป็นการครอสบอลจากทางด้านข้าง ในรอบแรกนี้มี 7 แต้ม จากการลงสนาม 3 นัด ก็ถือว่าน่าพอใจ ส่วนในรอบรองชนะเลิศที่เราจะต้องออกไปเยือนก่อนในวันที่ 24 นั้น เจอกันทีมใดก็ได้ไม่กลัวทั้งนั้น โค้ชหรั่งกล่าว
สำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ศึกลูกหนังอาเซียนคัพ จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 23-24 ม.ค. นี้ โดยทีมไทยที่เป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มเอ จะเป็นฝ่ายเดินทางไปเตะเป็นทีมเยือนเจอกับทีมอันดับที่ 2 ของกลุ่มบี ที่ประกอบด้วยสิงคโปร์, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และลาว ก่อน ในวันที่ 24 ม.ค.นี้
Credit :
http://www.thairath.co.th.