TKO webboard
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
TKO webboard

The first thai boxing webboard when you think about boxing.
 
เธšเน‰เธฒเธ™เธšเน‰เธฒเธ™  เธ„เน‰เธ™เธซเธฒเธ„เน‰เธ™เธซเธฒ  Latest imagesLatest images  เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)เธชเธกเธฑเธ„เธฃเธชเธกเธฒเธŠเธดเธ(Register)  เน€เธ‚เน‰เธฒเธชเธนเนˆเธฃเธฐเธšเธš(Log in)  

 

 เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน

Go down 
3 posters
เธœเธนเน‰เธ•เธฑเน‰เธ‡เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก
sugar ray
World Superflyweight Champion
World Superflyweight  Champion
sugar ray


เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 559
Registration date : 21/12/2006

เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน   เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน EmptyWed Apr 18, 2007 10:52 pm

ชีวิตวานนี้-วันนี้ เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน

ถ้าจะให้พูดถึงนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการกีฬาไทย แน่นอนครับว่าต้องมีชื่อของ “เจ้าระ” เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตยอดกำปั้นเจ้าของแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์) ของสมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน

เนื่องจากตลอดชีวิตในการฐานะพ่อค้ากำปั้น เจ้าของฉายา “ซ้ายทะลวงไส้” ได้สร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่ให้กับวงการกีฬาไทยอย่างมากมาย

ที่เห็นได้เด่นชัด และยังเป็นที่โจทจันท์กันจนถึงทุกวันนี้ ก็คือ ถ้าวันใด เขาทราย มีโปรแกรมขึ้นชก ถนนทุกสายในกรุงเทพฯ แทบจะกลายเป็นป่าช้า เนื่องจากทุกคนใจจดใจจ่อที่จะมุ่งตรงกลับบ้าน เพื่อไปตามลุ้นตามเชียร์ยอดมวยมหาชนบนหน้าจอทีวี

นอกจากนี้ เขาทราย ยังเป็นนักมวยคนแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของ ประเพณีการมอบทองและของรางวัลก่อนการชกบนเวที โดยเริ่มขึ้นครั้งแรกในการป้องกันตำแหน่งไฟต์ที่ 9 ที่จังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้การจัดของ นายวัฒนา อัศวเหม อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย

ซึ่งจากวันนั้น จนมาถึงวันนี้ คงต้องยอมรับกันว่า ยังไม่เคยมีนักกีฬาคนไหนที่สร้างผลงานได้อย่างยิ่งใหญ่เหมือนกับ เขาทราย ได้เลยแม้แต่น้อย

แต่ใครจะรู้บ้างว่า กว่าจะมายืนตรงจุดนี้ได้ “เจ้าระ” ต้องผ่านอะไรมาบ้าง วันนี้ทีมข่าวกีฬาสยามรัฐ ได้รับเกียรติจากอดีตแชมป์โลกชาวไทย มาไขข้องใจในเรื่องดังกล่าว รวมถึงพูดคุยถึงชีวิตในปัจจุบันหลังประกาศแขวนนวม

“ผมไม่เคยคิดเลยว่า ผมจะมาเป็นนักมวย เพราะตอนเด็กๆ แม่ก็ซื้อนวมมาให้ผมต่อยเล่นๆ กับ เขาค้อ ไปตามภาษา”

“จนวันหนึ่งผมได้มาพบกับ อาจารย์ปราการ วรศิริ ครูมวยคนแรก ก็เลยทำให้ทรรศนะของผมกับกีฬามวยเปลี่ยนไป ผมเลยหันมาเริ่มหัดมวยไทยอย่างจริงจัง โดยชกครั้งแรกในพิกัด 40 ปอนด์ภายใต้ชื่อ “ดาวเด่น เมืองศรีเทพ”

“ในตอนนั้นผมจำได้ว่า ผมตระเวนชกไปทั่วเพชรบูรณ์ และจังหวัดใกล้เคียง โดยมีสติสุดหรูคือ ไม่แพ้ใคร อีกทั้งมีจุดขายคือการเป็นนักชกฝาแฝด เลยทำให้ผมค่อนข้างได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตอนนั้น”

“มาวันหนึ่งผมก็ก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตนักมวยเมื่อไปพบกับ “เฮีย “ (แชแม้-นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์) ที่เห็นแววในตัวผมก็เลยชักชวนมาชกที่กรุงเทพ โดยฝึกซ้อมที่ค่าย “แก็แล็คซี” และเปลี่ยนชื่อในการชกเป็น “เขาทราย วังชมภู”

ฟังมาถึงตอนนี้ดูเหมือนชีวิตของ “เจ้าระ” กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ขึ้น เพราะได้โอกาสมาชกในเมืองกรุง ซึ่งเป็นความฝันของนักมวยทุกคนในสมัยนั้น อีกทั้งได้มาอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายมวยระดับแถวหน้าของประเทศ

แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด เพราะการมาชกในกรุงเทพ “เขาทราย” ต้องมาเจอกับ “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” จากทั่วสารทิศ ทำให้เด็กหนุ่มจากเพชรบูรณ์ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าใดนัก

“ตอนนั้นมีนักมวยเก่งๆ หลั่งไหลเข้ามาในกรุงเทพอย่างมากมาย ส่วนตัวผมไม่กลัวใคร ชกกับใครก็ได้ แต่ปัญหาก็คือ เรื่องน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างจะลดเยอะ ทำให้เมื่อขึ้นชกก็มีหมดแรกบ้าง เลยทำให้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก”

“ซึ่งหลังจากไม่ประสบความสำเร็จในครั้งนั้น ผมยอมรับเลยว่า ผมรู้สึกท้อเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจกลับมาทำสวนที่จังหวัดเพชรบูรณ์อยู่พักใหญ่ และเคยคิดว่า จะหันหลังให้กับสังเวียนผ้าใบตลอดชีวิต”

แน่นอนครับ ชีวิตคนทุกคนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ขนาด พระพุทธเจ้า ยังเคยมีทุกข์ ชีวิตของ “เจ้าระ” ก็เช่นกัน

ซึ่งหลังจากฟังบทสัมภาษณ์ท่อนนี้จบ ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าในครั้งนั้น เขาทราย เกิดทำอย่างที่พูดจริงๆ ก็คงเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการกีฬาไทยอย่างแน่นอน

แต่แล้วก็ถือว่า เป็นโชคดีของแฟนกีฬาชาวไทย เพราะหลังจากได้อยู่กับตัวเองสักพักเขาทราย ก็เริ่มผมสัจธรรมว่า “เขาถูกสร้างขึ้นมาคู่กับวงการมวย” ก็เลยทำให้หนุ่มเพชรบูรณ์กลับมาฝึกซ้อมที่ค่าย “แก็แล็คซี่” อีกครั้ง

แต่การกลับมาครั้งนี้ถ้าหากชกมวยไทยเหมือนเดิม ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น ทำให้ “แชแม้” นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณ โปรโมเตอร์คู่ใจ ผลักดันให้ เขาทราย ไปชกสากล โดยอยู่ในความดูแลของ “ครูเฒ่า” ชนะ ทรัพย์แก้ว และ “เกา คิม หลิน” ทวิช จาติกวณิช

ซึ่งก็ดูเหมือนการกลับมาครั้งนี้จะเป็น “ฟ้าหลังฝน” ที่สวยงาม เพราะตลอดการชก 26 ไฟต์ เขาทราย ที่มีพลังหมัดอันหนังหน่งเป็นจุดขาย พ่ายแพ้แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

“ผมไม่คิดเลยว่า การตัดสินใจกลับมาชกมวยในครั้งนั้นจะถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง ถึงแม้ผมจะเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่นาน นานขนาดที่พวก สด จิตรลดา หรือ สามารถ พยัคย์อรุณ ต่างก็ได้ขึ้นชิงแชมป์โลก และได้เข็มขัดกันไปกันถ้วนหน้า แต่ก็ถือว่า คุ้มค่า”

“เพราะหลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้ขึ้นประหมัดกับ นักมวยในค่ายเดียวกัน ที่ “เฮีย” (แชแม้-นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์) กำลังจะผลักให้ขึ้นชิงแชมป์โลก ซึ่งการชกครั้งนั้นผมดันไปน็อกนักมวยคนนั้น ทำให้ “เฮีย” ดันผมขึ้นไปชิงแชมป์โลกแทน “

ซึ่งเมื่อได้โอกาส ที่ต้องบอกว่า มีโชคมาช่วยเกือบครึ่ง “เขาทราย” ก็ไม่ได้ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดลอยไป เมื่อเขาน็อค ยูเซบิโอ เอสปินัล คู่ชกชาวโดมินิกัน ไปเพียงยกที่ 5 ในการชิงแชมป์โลกที่ว่าง ในรุ่นจูเนียร์แบนตัมเวท สภามวยโลก ดับเบิลยูบีซี และกลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 9 ในประวัติศาสตร์วงการมวยไทยทันที

อย่างไรก็ตามถึงแม้จะได้ขึ้นชื่อว่า เป็นแชมป์โลก แต่ เขาทราย ก็ไม่เคยหลงไปกลับแสงสี และชื่อเสียงที่ได้รับมา เมื่อเขายังตั้งหน้าตั้งตาซ้อมอย่างหนัก เพื่อความหวังที่จะรักษาเข็มขัดเส้นนี้ไว้บนเอวให้นานที่สุด

ซึ่งเขาก็ทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้จริงเมื่อตลอดกาลป้องกันแชมป์ 19 ครั้ง เขาทราย ไม่เคยเพลี้ยงพล้ำให้กับคู่ต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียว และทำให้เขากลายเป็นเจ้าของสถิติป้องกันแชมป์โลกได้มากที่สุดในบรรดานักมวยชาวไทย และทวีปเอเชีย

โดยทำลายสถิติเดิมของ ชาง จุง กู นักมวยชาวเกาหลีใต้ ที่ทำเอาไว้ 15 ครั้ง เป็นสถิติโลกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท (115 ปอนด์) และเทียบเท่ากับ ยูเซบิโอ เปรโดซา อดีตแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวท (ดับเบิลยูบีเอ) ที่ทำเอาไว้ 19 ครั้งเท่ากัน

นอกจากนี้ใน พ.ศ. 2542 เขาทราย ก็ได้รับเกียรติสูงสุดในชีวิตเมื่อได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ (ฮอล ออฟ เฟม) ของ สภามวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) และในหอเกียรติยศพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กีฬาไทย

ส่วนสถิติการชกมวยสากลของ เขาทราย นั้น ถือว่าเป็นสถิติที่สวยหรูยากที่จะหานักมวยคนใดมาทำลาย โดยชกไปทั้งหมด 48 ครั้ง ชนะ 47 แพ้ 1 ที่สำคัญเป็นการชนะน็อคถึง 41 ครั้ง

“ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ถึง 19 ครั้ง เนื่องจากในการป้องกันแชมป์โลกครั้งแรก กับ ดอง ฮุน ลี ผมก็เกือบจะเพลี้ยงพล้ำไปแล้ว เนื่องจากเมื่อผ่านไป 4 ยก ผมหันมาบอกกับทีมงานว่า ผมไม่ไหวแล้ว หมดแรงแล้ว”

“ซึ่งผมยังจำได้ว่า ทีมงานทุกคนต่างใจไม่ดีกันหมด เพราะรู้ว่า ผมหมดจริงๆ เนื่องจากก่อนชกลดน้ำหนักเยอะ แต่แล้วผมก็ยืนหยัดมาได้อีก 3 ยก ก่อนจะยิงหมัดซ้าย ที่ผมคิดว่าเป็นหมัดฟ้าประทาน ส่ง ดอง ฮุน ลี แพ้น็อคไปแบบเหลือเชื่อ”

“หลังจากวันนั้นผมก็ยังฝึกซ้อมอย่างหนัก และตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกไฟต์ ซึ่งเมื่อทำได้ถึง 19 ครั้ง ผมก็คุ้มค่า และเป็นสิ่งตอบแทนที่ดีสำหรับผมในการทุ่มเทให้กับวงการมวยมาตลอดชีวิต”

ภายหลังจากแขวนนวม เขาทราย ก็หันเหตัวเองเข้าสู่วงการบันเทิง โดยเริ่มจากการออกอัลบั้มเพลง ชื่อชุดว่า “ขอบคุณครับ” ซึ่งประสบความสำเร็จพอสมควร ก่อนจะรับเล่นละครอีกหลายต่อหลายเรื่อง

ส่วนชีวิตส่วนตัวในปี 2535 ได้แต่งงานกับ ยูมิโกะ โอตะ หญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่พบเจอกันในการป้องกันตำแหน่งที่ญี่ปุ่น แต่ได้หย่าขาดกันในเวลาต่อมา

ปัจจุบันเขาทราย มีธุรกิจส่วนตัวมากมาย ทั้ง ร้านหมูกระทะ โต๊ะสนุกเกอร์ และธุรกิจใหม่ที่เขากำลังทำอยู่ก็คือ หลังคารถกระบะไฟเบอร์ โดยเป็นการร่วมหุ้นกับคนรู้จัก ซึ่งก็กำลังไปได้สวย

ขณะที่ชีวิตครอบครัวได้แต่งงานใหม่กับ คุณฟ้า และมีพยานรัก 1 คน คือ น้องเบสต์โดย เขาทราย พูดถึงการวางอนาคตของลูกคนนี้เอาไว้อย่างน่าฟังว่า

“ผมไม่ได้กะเกณฑ์ชีวิตของลูกชายเอาไว้ ผมปล่อยให้เขาคิดเอง เรียนรู้ด้วยตนเองเขาอยากจะเรียนอะไร อยากเป็นอะไร ผมยินดีที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ที่อยากจะขอเขาอย่างเดียวก็คือ ให้เขาเป็นคนดีของสังคม และไม่เป็นภาระของคนอื่น”

“ส่วนจะให้ น้องเบสต์ หันมาชกมวยเหมือนกับตัวผมหรือไม่นั้น คงตอบได้เลยว่า ไม่เพราะที่ผ่านมาผมรู้ดีว่า ชีวิตนักมวยมีความลำบากขนาดไหน”

“อีกทั้งดูแววของ เบสต์ แล้วก็ไม่ค่อยสนใจกีฬาชนิดนี้เท่าใดนัก เขาจะไปสนใจในการตีแบดมินตัน ว่ายน้ำซะมากกว่า ซึ่งถามว่าผมเสียใจไหมที่ลูกไม่เดินตามรอยผม ผมตอบได้เลยว่า ไม่เสียใจ เพราะเขาอาจจะประสบความสำเร็จในทางที่เขาเลือกก็ได้”

และนี่ก็คือชีวิตในอดีต และปัจจุบันของ “เจ้าระ” เขาทราย แก็แล็คซี่ ยอดกำปั้นขวัญใจชาวไทย ซึ่งถึงแม้วันนี้เราจะไม่ได้เห็นเขาในบทบาทนักกีฬา ที่สร้างความภูมิใจให้คนทั้งประเทศแล้ว แต่ผมเชื่อว่า คุณงามความดีที่เขาสร้างไว้ให้กับวงการกีฬาไทย

“จะยังอยู่ในใจของแฟนกีฬาตลอดไป”

แฟกไฟล์ “เขาทราย แก็แล็คซี่”
ชื่อ-นามสกุล : สุระ แสนคำ (เขาทราย แกเล็คซี่)
ชื่อเล่น : ระ
ฉายา : ซ้ายทะลวงไส้
เกิด : 15 พ.ค. 2502 ที่จังหวัดเพรชบูรณ์
ปัจจุบันอายุ : 48 ปี
การศึกษา : ประถมศึกษา ชั้นที่ 4 ร.ร.เฉลียงลับวิทยา มัธยมศึกษา ร.ร.ประสิทธิวิทยา อาชีวศึกษา ร.ร.เทคนิคเพชรบูรณ์

ประวัติการเล่นกีฬา
- อายุ 14 ปี หัดมวยไทยครั้งแรกกับ ครูปราการ วรศิริ ชกครั้งแรกภายใต้ชื่อ ดาวเด่น เมืองศรีเทพ มี ครูมานะ พรหมประสิทธิ์ เป็นเทรนเนอร์ จากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็น เขาทราย วังชมภู ก่อนจะมาเป็น เขาทราย แกเล็คซี่

เกียรติประวัติการแข่งขัน
- คว้าแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์ แบนตั้มเวต ของสมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2527 มีสถิติป้องกันแชมป์โลก เอาไว้ติดต่อกันถึง 19 ไฟต์ ดังนี้

ครั้งที่ 1 (6 มี.ค. 2528) ชนะน็อค ดอง ฮุน ลี (เกาหลีใต้) ยก 7 ที่ราชดำเนิน, ครั้งที่ 2 (21 ก.ค. 2528) ชนะทีเคโอ ราฟาเอล โอโรโน (เวเนซุเอล่า) ยก 5 ที่ราชดำเนิน, ครั้งที่ 3 (23 ธ.ค. 2528) ชนะทีเคโอ เอ็ดการ์ มอนเซรัท (เวเนซุเอลา) ยก 2 ที่ราชดำเนิน, ครั้งที่ 4 (4 พ.ย. 2529) ชนะน็อค อิสราเอล คอนเตรรัส (เวเนซูเอลา) ยก 5 ที่ คูราเซา ประเทศเวเนซูเอลา

ครั้งที่ 5 (28 ก.พ. 2530) ชนะทีเคโอ ยก 14 เอลลี ปิกัลป์ (อินโดนีเซีย) ที่จาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย, ครั้งที่ 6 (12 ต.ค. 2530) ชนะทีเคโอ เบียง กวาง ชุง (เกาหลีใต้) ยก 3 ที่ราชดำเนิน, ครั้งที่ 7 (26 ม.ค. 2531) ชนะคะแนน (12 ยก) ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ที่ลุมพินี, ครั้งที่ 8 (9 ต.ค. 2531) ชนะ ทีเคโอ ยก 8 ชาง โฮ แช (เกาหลีใต้) ที่โซล ประเทศเกาหลีใต้

ครั้งที่ 9 (15 ม.ค. 2532) ชนะทีเคโอ แต อิลชาง (เกาหลีใต้) ยก 2 ที่จังหวัดสมุทรปราการ, ครั้งที่ 10 (8 เม.ย. 2532) ชนะคะแนน 12 ยก เคนจิ มัตสึมูระ (ญี่ปุ่น) ที่โยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น, ครั้งที่ 11 (29 ก.ค. 2532) ชนะทีเคโออัลเบอร์โต คาสโตร (โคลอมเบีย) ยก 10 ที่จังหวัดสุรินทร์, ครั้งที่ 12 (31 ต.ค. 2532) ชนะทีเคโอ เคนจิ มัตสึมูระ (ญี่ปุ่น) ยก 12 ที่โกเบ ประเทศญี่ปุ่น

ครั้งที่ 13 (29 มี.ค. 2533) ชนะน็อค คอบรา อารี บลังกา (พิลิปปินส์) ยก 5 ที่ราชดำเนิน, ครั้งที่ 14 (30 มิ.ย. 2533) ชนะทีเคโอ ชุนนิชิ นากาจิมา (ญี่ปุ่น) ยก 8ที่จังหวัดเชียงใหม่, ครั้งที่ 15 (29 ก.ย. 2533) ชนะน็อค ยอง กัง คิม (เกาหลีใต้) ยก 6 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี, ครั้งที่ 16 (9 ธ.ค. 2533) ชนะทีเคโอ เออร์เนสโต ฟอร์ด(ปานามา) ยก 6 ที่จังหวัดเพชรบูรณ์

ครั้งที่ 17 (7 เม.ย. 2534) ชนะทีเคโอ ปาร์ค แจ ซุค (เกาหลีใต้) ยก 5 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม, ครั้งที่ 18 (20 ก.ค. 2534) ชนะทีเคโอ เดวิด กรีแมน (เวเนซูเอลา) ยก 5 ที่ สมุทรปราการ, ครั้งที่ 19 ครั้งสุดท้ายเมื่อ 21 ธ.ค. 2534 ชนะคะแนน 12 ยก อาร์มันโด คาสโตร (เม็กซิโก) ที่สนามเทพหัสดิน

http://www.siamrath.co.th/Sport.asp?ReviewID=170629

เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน 1142169412
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
peachjang
Undisputed World Bantamweight Champion
Undisputed World Bantamweight Champion
peachjang


เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 779
Registration date : 21/12/2006

เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน   เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน EmptyThu Apr 19, 2007 12:06 am

ขวัญใจมหาชนตลอดกาลครับ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
umbrella
World Bantamweight interim Champion
World Bantamweight interim Champion
umbrella


เธˆเธณเธ™เธงเธ™เธ‚เน‰เธญเธ„เธงเธฒเธก : 654
Registration date : 22/12/2006

เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน Empty
เธ•เธฑเน‰เธ‡เธซเธฑเธงเธ‚เน‰เธญเน€เธฃเธทเนˆเธญเธ‡: Re: เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน   เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน EmptyTue Apr 24, 2007 7:19 pm

ขอคารวะแด่ท่านผู้นี้ด้วยหัวใจของคนรักมวยจริงๆ ครับ
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ Go down
 
เขาทราย แกแล็คซี่ ตำนานกำปั้นขวัญใจมหาชน
เธ‚เธถเน‰เธ™เน„เธ›เธ‚เน‰เธฒเธ‡เธšเธ™ 
เธซเธ™เน‰เธฒ 1 เธˆเธฒเธ 1

Permissions in this forum:เธ„เธธเธ“เน„เธกเนˆเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธ–เธžเธดเธกเธžเนŒเธ•เธญเธš
TKO webboard :: ประวัตินักมวย :: ประวัตินักมวยสากล-
เน„เธ›เธ—เธตเนˆ: